Tag: Noodler’s

ช่อนางแย้ม

นี่เป็นโอกาสครั้งที่สอง ที่ได้เอาฝากสเก็ตดอกไม้มาฝากชมกันครับ คราวนี้สเก็ตและลงสีภาพ “ดอกนางแย้ม” นางแย้มเป็นหนึ่งดอกไม้ที่ปรากฎชื่อในวรรณคดีไทย ชื่อไท้ไทยนะครับแต่หน้าตาคล้ายกุหลาบผสมมะลิซ้อน แถมเวลาออกดอกบานสะพรั่งก็ดูเป็นช่อที่มีช่างดอกไม้จัดไว้ยังไงอย่างนั้น สวยงามมาก

Rose Clerodendrum-1 คราวก่อนที่วาดสเก็ตมาเป็นกระดาษอะไรไม่รู้ คราวนี้หากระดาษที่ออกชื่อบอกได้มาลองบ้าง คราวนี้ใช้กระดาษ Canson Art Book Drawing paper 125 g. เป็นกระดาษวาดเขียนน่าจะเหมาะกับดินสอและปากกามากกว่าก่าใช้ระบายสีน้ำ แต่ด้วยความหนา 125 g. คันมือขอลองหน่อยเถอะ
Rose Clerodendrum-2 หลังจากใช้ LAMY nib ef บรรจุหมึกกันน้ำ Noodlers’ Ink สเก็ตนำและตามด้วยปากกาพู่กันPentel ก็ได้เวลาลงสีน้ำเพื่อให้หายคาใจ
Rose Clerodendrum-3 ผลออกมาเข้าใจละว่าทำไมหน้าปกถึงระบุว่าเป็นกระดาษ Drawing paper เพราะกระดาษรุ่นนี้ซึมน้ำไวเกินที่จะเล่นเทคนิคสีน้ำได้สนุกมือกว่านี้ แต่ด้วยความหนา 125 g. เมื่อสีแห้งจึงไม่บิดเบี้ยวกระดาษงอ (หยวนๆ)

ถ้ามีโอกาสจะสเก็ตดอกไม้อื่นๆมาแบ่งปันรับชมกันอีกครับ^^

อุปกรณ์:

ดอกบ๊วยสีขาว

การสเก็ตช์ภาพโดยเฉพาะดอกไม้ มันมีเรื่องราวให้เล่ามากมาย แต่ละดอกก็มีที่มา มีนัยยะในตัวเอง
ลองวาดส่งมาทักทายที่นี่ดูก็คิดๆอยู่ว่าจะเริ่มจากอะไรดี นึกถึงดอกเหมย ดอกบ๊วย ขึ้นมา
เป็นดอกไม้ความหมายดีนะครับสำหรับคนจีน แสดงถึงความอดทน ต่ออุปสรรคยากลำบากได้
แม้ยามหิมะตกกระหน่ำดอกเหมยก็ยังสามารถผลิบานได้ ไม่สะทกสะท้านความหนาวเย็น

Navee01

Navee02

มาถึงเรื่องสเก๊ตช์ภาพดอกบ๊วยขาวนี้ ทดลองความเชื่อส่วนตัวว่ากระดาษที่พอจะหาได้ทั่วไปก็ไม่แย่
สมุดไม่มีเส้นนี่ราคายี่สิบกว่าบาทเอง ได้มาจากร้านในสถานีรถไฟฟ้า(มีหลายสถานีที่ขายแบบนี้)
สำหรับงานสเก็ตช์ และมันก็เป็นอย่างนั้น สเก็ตช์ดีเชียว จะหมึกปากกา หรือหมึกภู่กันก็เส้นสวยไม่แตกร้าว
เลยเกิดอาการย่ามใจ ลงสีน้ำดีมั๊ยน้าาา?… ลองเลย ! ก็เป็นอย่างที่เห็น ไม่เลวสำหรับการใช้สีนัก
แต่ไม่ดีถึงขั้นจะทำอะไรที่จะซับซ้อนได้สบายมือ

Navee03

ถ้ามีเวลามีแรง จะหาอะไรวาดๆเขียนๆมาแบ่งกันชมอีกครับ

อุปกรณ์:
ปากกา LAMY Vista nib EF, หมึก Noodler’s Ink bulletproof, ปากกาพู่กัน Pentel FP5M, สีน้ำ Sakura Koi, ปากกา LAMY Joy nib 1.9 mm., สมุดอะไรไม่ทราบเหมียนกัน

กรุงเทพจากปาก (กา)

ช่วงวันหยุดปิดเทอมไม่ได้ไปเที่ยวไหน หาเรื่องไปเที่ยวรอบๆกรุงเทพครับ สมุด sketch ปากกา และสีน้ำเป็นสิ่งที่พกติดตัวไปด้วยตลอด (บางวันลืมกระเป๋าตัง เเต่ไม่ลืมอุปกรณ์) เล่าเรื่องราวความวุ่นวายเล็กๆ ที่น่ารักของเมืองกรุงเทพครับ

วัดโพธิ์ 2

วัดโพธิ์

เวิ้ง

เสาชิงช้า
ปล. อยากชวนทุกๆคนไปบันทึกความทรงจำที่เวิ้งนครเกษมกันน่ะครับ เพราะเวิ้งที่น่ารักของพวกเรากำลังถูกรื้ออยู่ครับ

อุปกรณ์ : ปากกาหมึกซึม noodler, สมุด sketch Khadi, สีน้ำ Schmincke Holbein

Moai Coffee สวนผึ้ง

ครั้งนี้ตั้งใจจะลองฝึกสเกตช์สถานที่ดูบ้าง แต่ก็..ยังคงเป็นการสเกตช์จากภาพถ่ายอยู่นะคะ เพราะหากจะสเกตช์สดเลยนี่ยังคงไม่สามารถค่ะเลือกสเกตช์ภาพถ่ายร้าน Moai Coffee ที่สวนผึ้ง ซึ่งร้านนี้ออกแบบร้านได้ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวให้แวะพักชิมกาแฟได้ดี รสชาดพอใช้สำหรับคนที่ไม่ใช่คอกาแฟแต่ว่าราคาค่อนข้างสูงพอๆกับร้านในกรุงเทพเลยทีเดียวค่ะ

moai2
ภาพนี้วาดบนกระดาษ Arches 300 กรัมชนิดผิวหยาบ ใช้ดินสอวาดโครงคร่าวๆแล้วลงรายละเอียดลายเส้นด้วยปากกา Lamy Safari EF เพื่อทดสอบหมึกกันน้ำ Noodler’s Ink สีดำ ปรากฏว่าเส้นที่ลากไม่ค่อยสม่ำเสมอทำให้ต้องลากซ้ำซึ่งอาจจะเป็นเพราะผิวกระดาษที่ค่อนข้างหยาบที่น่าจะเหมาะกับปากกา Pigma มากกว่า(มั้งคะ) และลงสีด้วยสีน้ำ Winsor Deluxe Sketcher’s Box ค่ะ

โรงแรม 137 Pillas House เชียงใหม่

ทริปเชียงใหม่(10)…โรงแรมที่สามที่ไปพักทริปนี้เป็นที่ที่ชอบที่สุด..และแพงที่สุด..ราคาต่อคืนเกินมาตรฐานหลายเท่าตัวที่ตัวเองจะจ่ายตามงบของที่พักในการท่องเที่ยวส่วนตัวปกติ..แต่ขอกระแดะไปพักเพราะความจำเป็นทางวิชาชีพ(สถาปนิก)..อาชีพนี้จำเป็นต้องพาตัวเองไปรสนิยมทั้งสูงและต่ำ..ในการนอนดื่มกิน เพื่อมาเติมฝันในโครงการของลูกค้า อนาคต…เรียกให้ดูดีมีวิชาการส่วนตัวมักคิดว่าเราจ่ายเพื่อเป็นการ R&D ในประสบกาณ์เราเอง..อิอิ..

ตัวโรงแรมมีดียังงัยขอมารีวิวในรูปหน้า..ภาพนี้เป็นการวาดสามล้อที่จอดเป็นพร๊อพหน้าโรงแรม..ให้เข้ากับตีมทั้งสีรูปทรง สมัย สะท้อนแนวการตกแต่ง…ดูเผินเผินเหมือนเราย้อนอดีต..แต่แอบมีความเป็นแบรนด์ใส่เข้ามาไม่น้อย..สังเกตุว่าโรงแรมฮิปฮิปต่างก็มีการจัดหารถตามแนวตัวเองมาจอดหน้าโรงแรมเป็นพร๊อพ..ใครที่กำลังทำธุรกิจ..อย่าลืมมองหายานพาหนะกิ๊บเก๋เข้ากับตีมมาจอดไว้ตามเทรนด์ตามหน้าร้านมั่งก็ไม่เลวนะครับ..
sketch-1

ทริปเชียงใหม่(11)..ไปเชียงใหม่ครานี้..เป็นช่วงสุดสัปดาห์..ในการออกตระเวณท่องเที่ยวนั้นค่อนข้างจะต้องรับกลับที่พักก่อนสองทุ่มครึ่งทุกวัน..เพราะว่ามีนัดต้องเข้าเฝ้า คุณชายรณพีร์ กำลังเข้มข้น..เพราะเพียงขวัญนางเอกตามท้องเรื่องเพิ่งรู้ความจริงว่า ตาพระเอกเป็นหม่อมราชวงศ์ ประมาณเจ้าชายอาศัยอยู่ใน..วังจุฑาเทพ…นางเอกเอ่ยปนน้ำตาหลังทราบความจริงว่า… “วังนี้สง่างามมากไม่รู้ว่าทำงานทั้งชีวิตจะซื้อของตกแต่งซักห้องนึงได้หรือไม่” … ที่เกริ่นมาเพราะว่าที่พักแห่งที่สามนามว่า “137 Pillar house” http://137pillarshouse.com/
หลังจากเข้าไปเช็คอินต้องยอมรับว่า…ออกแบบและตกแต่งได้สง่างาม ประณีตไม่แพ้วังจุฑาเทพ…มีห้องพักเพียง36ห้องบนพื้นที่ดินเกือบสิบไร่(จากการกะด้วยประสบการณ์การเป็นนักSketchers มาระยะหนึ่ง)ทำเลกลางย่านเมืองเก่าเชียงใหม่แถวริมปิง..รายละเอียดโรงแรมยังมีSketch อีกหลายมุม..เก็บไว้มาต่อคราวหน้านะครับ..
sketch-2a sketch-2b

ทริปเชียงใหม่(12) ยังคงเพลินใจที่..137 Pillar House..หลังจากได้พักไปหนึ่งคืน..เพื่อนร่วมทริปทุกคนพูดเห็นเสียงเดียวตอนอาหารเช้าว่า..ประทับใจมากโดยเฉพาะเซียนท่องเที่ยวระดับตำนานถึงกับเอ่ยปากว่า เป็นโรงแรมในส่วนของห้องพักและบรรยากาศที่ดีที่สุดที่เคยไปพักมา…บ่องตง ไม่ได้มีการสปอนเซอร์อะไร..จากโรงแรมเลย….แต่เห็นด้วยว่าที่นี่ทำให้รู้สึกว่าการพักผ่อนแบบหรูหรามันเป็นอย่างนี้นี่เอง..ความหรูหราที่สัมผัสได้ของที่นี่ไม่ได้เกิดจากการใช้วัสดุราคาแพงหรือตกแต่งด้วยงานศิลปะล้ำค่าเลย….กลับเป็นการผสมผสามลงตัวระหว่าง เรื่องราว งานออกแบบ และ ธรรมชาติ…

เรื่องราว..เค้าสร้างตำนานจากการย้ายเรือนไม้สักเก่าหลังเขื่องมาสร้างใหม่ณ.ที่แห่งนี้เป็น Signature โดยเข้าใจว่าบ้านนี้มีต้นซุงเป็นเสาเรือนนับได้137ต้นเลยเป็นที่มาของชื่อ (Pillas แปลว่าเสา)โดยเอาตำนานของการลากซุงโดยช้างสมัยยุคการทำสัมปทานไม้สักรุ่งเรืองเข้ามาเป็นตีมตกแต่งภายในห้อง..อย่างแนบเนียน..
sketch-3

ส่วนการออกแแบก็ยังได้อานิสงค์ของตำนานมากำหนดเป็นรูปแบบอาคารจากการที่บริษัทฝรั่งที่ชื่อว่า บริษัท บอเนียว ชื่อคุ้นคุ้นมะ? มาสัมปทานไม้ในยุคนั้น เลยเกิดเป็นลูกผสมระหว่าง ฝรั่งกับเชียงใหม่..กลายเป็นสถาปัตยกรรม ทรง “โคโลเนียล ลานนา” ที่ยังมีหลักฐานอาคารเก่ารอบรอบที่ตั้งโรงแรม ซึ่งแต่ละห้องก็ตกแต่งเหมือนจำลอง ห้องของนายฝรั่งสมัยนั้น…เสียดายไม่รู้ล่วงหน้า..ไม่งั้นจะพกไปส์กับบรั่นดีไปด้วย.รับรองเนียนนน..เป็นอันว่าคืนนั้น..สวมบทเจ้านายฝรั่งนอนบนเตียงอันแสนนุ่ม..ชงชาชั้นดีที่แถมไม่อั้น…ลุ้นคุณชายรณพีร์ต่อไปว่าจะเอาชนะใจนางเอกได้หรือไม่….ไม่ทันหนังจะจบ..เตียงชั้นดีกลับออกฤทธิ์มากกว่าคาเฟอีนของชาชั้นดี..ทำให้เข้าเฝ้าพระอินทร์เร็วกว่าที่ตั้งใจ..ZZZZ…
sketch-4

6.30น.เสียงนกร้องตอนเช้าดังแว่วแว่วเข้ามาในห้องนอนแทนเสียง ringtone เตือนปลุกของโทรศัพท์..ลุกจากเตียง..คว้าสมุดเสก๊ตกับอุปกรณ์..ออกไปที่เฉลียงมุข แปดเหลี่ยม..หลังห้องที่โอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่และสมบูรณ์มากกก..อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับทวดเราแต่ละต้นถ้าจะบอกขนาดต้องใช้หน่วยเป็นคนโอบ…. แสงแดดอ่อนมาขับภาพให้น่ามองเข้าไปอีกทนไม่ไหวจับโอโซนมาผสมสีน้ำระบายบรรยากาศ…โอว์เพิ่งรู้ว่าชีวิตการเป็นนายฝรั่งสมัยก่อน..มันหรอยแบบนี้เอง…..ถึงว่าฝรั่งหลายคนถึงกับเปลี่ยนใจตั้งรกรากที่นี่ไม่ยอมกลับบ้านเกิด…Boss อยากเป็น “ป้อเลี้ยง” 555…

เทคนิค..ลามี่ safari, noodlers ink, watercolor บนสมุด Sketch Zequenz

มันอยู่บนโต๊ะ

สวัสดีครับ ผมเป็นคนชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กๆ ปกติถนัดวาดแต่รูปแมวน้ำ เป็ด ปลา ฯลฯ แต่มันผิด concept เวปนี้ก็เลยไม่กล้าเอามาลง เดี๋ยวโดน admin สาปให้ประมูลปากกาแล้วได้ตลอด จะไม่มีเงินกินข้าวเอา

สำหรับงาน sketch ชุดนี้ เป็นงานที่เพิ่งวาดได้ไม่นานนี้เองครับ (คืองานตอนแรกๆ มัน… อย่าให้พูดถึงเลยครับ กลัวเอามาให้ดูกันแล้วจะน้ำตาซึม … เพราะดูไม่ออกว่าคืออะไร)

ตามหัวเรื่องเลยครับ ทุกอย่างที่ผม sketch มาฝากครั้งนี้จะเป็นบรรดาของบนโต๊ะทั้งหลาย ทั้งอุปกรณ์ปรุงอาหารบนโต๊ะอาหาร และอุปกรณ์สำนักงานบนโต๊ะทำงาน

4 May 2013 Fuji Desk

ของเหล่านี้ล้วนแล้วแต่บอกวัฒนธรรมและค่านิยมของผู้จัด หรือผู้เป็นเจ้าของได้อย่างดีนะครับ
อย่างโต๊ะของร้านอาหารญี่ปุ่น จะออกแนวเรียบๆ มีดอกไม้ปักให้ดูเรียลลิสติกนิดหน่อย วางพร้อมกับของที่คนไทยชอบปรุง เช่น เกลือ โชยุ พริกไทย (มันมีคนเอาไปเหยาะใส่ซูชิด้วยเหรอฟระ!) แล้วก็ ฟุริคาเคะ (ผงโรยข้าว) นิดๆ หน่อยๆ ตามสไตล์ มินิมัลลิสม์ แบบ แจแปนนิสต้า

7 May 2013 My Desk

12 May 2013 N Pla Desk

ส่วนของโต๊ะทำงาน (ไม่กล้าวาดของตัวเองให้ดู เพราะมันวาดยากมาก มีของอยู่ทั่วทุกอณูของโต๊ะ ฝีมือตอนนี้วาดไปแล้วคนจะพาลนึกเอาว่าเป็นโต๊ะไหว้เจ้าหรืออะไรซักอย่าง) ก็บ่งบอกสไตล์การทำงานของคนเช่นกันนะครับ เช่น น้องโต๊ะข้างๆ ผม เป็นคนที่วันๆ หนึ่ง ต้องรับเอกสารเข้ามาเคลียร์เยอะมาก จึงต้องเอาที่ใส่แฟ้มเอกสารมาตั้งข้างๆ เอาไว้ตลอดเวลา พอเอกสารมาก็รีบเสียบๆ เข้าไป ไม่อย่างนั้นมันจะกองที่โต๊ะจนหาคีย์บอร์ดไม่เจอ (น้องเคยลางานไปสามวัน กลับมาหาโต๊ะตัวเองไม่เจอ กองกระดาษมันทับ ขาวโพลน นึกว่าหิมะตกเมืองไทย!)

สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ 3 รูปนี้: ตัดเส้นโดย Copic Multi-Liner หัว 0.5 / แต่งเส้นโดย Rotring Rapiograph หัว 0.3 / รูปโต๊ะทำงานผมใช้ Platinum Preppy 03 กับหมึก Noodler’s Lexington Grey (ทั้งสองอุปกรณ์นี้สามารถดูรีวิวได้ที่ B.B.Blog ครับ) / ลงสีน้ำ Sakura Koi ครับ / กระดาษเป็นสมุด Sketch ของ Maruman ไซส์โปสการ์ด

ขอฝากผลงานไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยครัฟ

แหม คุณท๊อปครับตอนแรกบอกวาดไม่เก่ง แต่ที่เห็นนี่ฝีมือร้ายไม่เบานะครับ 😉@hackhq

อร่อยจนหมึกหยดสุดท้าย

เอามาฝากสำหรับคอขนมหวาน มาเปลี่ยนบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกเย็นๆ หวานๆ หอมเนยและนม บ้างค่ะ

ทั้งหมดนี้เป็นของหวานชื่อดังของร้านต่างๆ ตามที่เขียนไว้เลยค่ะ (อ่านไม่ออกไม่ต้องถามนะคะเพราะเราก็อ่านไม่ออกเหมือนกัน) ไปเจอมาจากนิตยสารอะไรซักฉบับ (จำชื่อไม่ได้) วาดเก็บไว้นานแล้วด้วย ด้วยความอยากกินแต่ขี้เกียจถ่อไปถึงกรุงเทพ เลยกะจะวาดให้อิ่ม มองไปจินตนาการไปว่ามันต้องอร่อย อันนี้ต้องหอมเนยหวานน้ำตาล อันนี้มีรสเปรี้ยวของซอสสตอร์เบอร์รี่ อันนี้ต้องกรอบๆ มันๆ เย็นๆ ตบด้วยกาแฟซักแก้ว…(โอ้ หัวอกเด็กต่างจังหวัดตาดำๆ) Bon Appetit

Sweet1 Sweet2 Sweet3 Sweet4 Sweet5

อุปกรณ์ : กระดาษ CANSON Creative Sketch Journal A6 110g, Derwent watercolour pencils, ปากกาลามี่ซาฟารี EF Nib กับ noodler’s bulletproof black ink, สีอะคริลิคสีขาว

สเก็ตช์ตอนนี้… ทำไส้ผมบิดเป็นเกลียวเชียวครับ! @hackhq