บันทึกเรื่องราวการเดินทาง โดยส่วนใหญ่เป็นภาพสถานที่ มุมมองวิถีชีวิต ผ่านทางการ Sketch ซึ่งตัวผมมองว่า บางทีความสุขก็เกิดจากการได้ลากเส้นจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งเท่านั้นเอง
อุปกรณ์ที่ใช้ :
ปากกาน้ำเงิน (อาจจะเพราะว่ามัธยมแอบครูวาดด้วยปากกาน้ำเงินบ่อยที่สุด)
ปากกา Lamy , ปากกา Pigma , สีน้ำ Winsor & Newton , สมุด Moleskine Sketchbook
สามารถชมผลงานอื่นๆ ได้ที่ : https://www.facebook.com/powderedmilksketchbook/
มือใหม่ค่ะ เพิ่มเริ่มสเก็ตช์ได้ไม่นาน พยายามจะวาดสิ่งที่พบเจอรอบตัวให้ได้บ่อยๆ ขอคำแนะนำด้วยนะคะ ^^
รูปนี้แอบวาดรุ่นพี่ในที่ทำงานค่ะ ลงเส้นไว้ก่อน แล้วค่อยกลับมาลงสีทีหลังค่ะ
อุปกรณ์
– สมุด Monologue
– ปากกา pigment sakura 005 , 03
– สีน้ำ Winsor & Newton Cotman และ Van Gogh (บางสี)
วันนี้ไป sketch งานที่วัดโพธิ์กับกลุ่มเพื่อนวิชาสถาปัตย์ที่โรงเรียนครับ ร้อนมากนั่งวาดไปเหงื่อท่วมตัวเลยฮ่ะ วาดเสร็จค่อยเอากลับมาลงสีน้ำ ลงสีไปดูบอลไปด้วย
อุปกรณ์:
สีน้ำ Winsor & Newton, ปากกา Pigma 0.1
วาดอะไรไกลๆตัวมานาน ลองวาดสิ่งที่ใกล้ตัวมากๆ ก็คือฉากรอบๆ บ้าน 360 องศา (เอาเข้าจริงก็ไม่ถึง) มองไปด้านขวาก็โรงงาน ด้านซ้ายก็โรงงาน เป็นชีวิตที่ตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของโรงงาน วาดออกมาก็เลยมีแต่ภาพโรงงาน -*-
เบี้ยวบ้าง เอียงบ้างอย่าถือสา วาดสด และตาเอียงค่ะ 555
อุปกรณ์:
ดินสอกด + ไส้ 3B
สมุดวาดภาพซื้อจากศูนย์หนังสือ มธ.
สีน้ำ cotman
วันนึงระหว่างที่กำลังปั่นจักรยานกลับบ้าน ฝนเกิดตกขึ้นมาเหนมีสถานีรถไฟอยู่ใกล้ๆ (หลังโรงบาลรามา) ก็เลยเข้าไปหลบฝน ได้สักพัก ก็มียามมาไล่ให้ออกไป ทั้งๆที่ฝนยังตกอยู่ จึงเพิ่งสังเกตว่า นี่เป็นสถานีรถไฟที่ไม่มีคนเลย ถ้าจะขึ้นรถไฟต้องยืนรอข้างนอก ห่างออกไปทางซ้ายของสถานีราวๆร้อยกว่าเมตร รู้สึกว่าแปลกดี สร้างไว้แต่ไม่ให้ใช้ เลยย้อนกลับมาสเกตซ์อีกกครั้งวันต่อมา(ที่ฝนไม่ตก)
เริ่มจากสเกตซ์เป็นภาพขาวดำก่อนด้วยดินสอ แล้วจึงวาดใหม่ที่บ้านลงบนกระดาษสีนำ้ โดยยึดจากภาพขาวดำเป็นแบบครับ
อุปกรณ์:
ดินสอกด 4B
สีน้ำ : winsor, holbein, senelier
พู่กัน : Arches A6#0, Isabey pocket brush# 6, Raphael 803#5
กระดาษสีน้ำ เรเนซอง
สมุดสเกตซ์ธรรมดา 70฿
วาดรูปหมาน้อย(บีเกิล) มันทั้งซน และ ไฮเปอร์ บางท่อนอาจจะเห็นเป็นหมา แต่บางท่านอาจจะเห็นเป็นหนู หรืออย่างอื่น แล้วแต่จินตนาการเลยครับ
โบสถ์ของวัดเขาแผงม้า เป็นวัดที่บวชมา 5 สัปดาห์ อยู่ที่วังน้ำเขียว โคราช กลับไปอีกครั้งทำให้รู้สึกสงบ แดดร่มลมตก ก็ Sketch ซักหน่อย
เป็นการเปรียเทียบสีของ Sakura Koi กับ Cotman จะเห็นว่าเนื้อสีของซากุระเป็
นี่คืออออ บทเรียนว่าอย่าลงสีน้ำกับหมึกที่ไม่กันน้ำครับ (งานมันกากมาก แต่โทษหมึกไม่กันน้ำ -*-)
เนื่องจากหมึกมันไม่กันน้ำก็เลย Sketch อุปกรณ์ของฉันแบบไม่ลงสีมันเสี
ผลงานสเก็ตช์อันยอดเยี่ยมภาคต่อของคุณ P_Chaisong กลับมาให้ชมกันอีกครั้งครับ ครั้งนี้มากันให้ชมกันอย่างจุใจแถมแต่ละภาพก็บอกเล่าเรื่องราวได้น่าติดตามและมีชีวิตชีวามากครับ ปล. ชมพู่น่าทานมากเลยครับ!@hackhq
ภาพสุดท้ายเป็นอุปกรณ์และจานสีน้ำที่ดัดแปลงขึ้นมาเองครับขนาดเล็กดี พกพาสะดวก แต่พยายามเรียงยังไงก็ได้แค่ 15 สี…ก็ถือว่าเพียงพอแล้วครับสำหรับการสเก็ตช์ 
เป็นคนภาคอีสานแต่มาทำงานที่ภาคใต้ ชอบการสเก็ตช์ภาพ ชอบดูภาพที่คนอื่นสเก็ตช์และมีความสุขที่เห็นหลายๆคนรักการสเก็ตช์ภาพ เห็นสมุดสเก็ตช์สวยๆ แล้วถูกใจเป็นไม่ได้ต้องซื้อมาเก็บไว้ (ถ้าไม่แพงจนเกินไป) ที่ผ่านมาการสเก็ตช์ภาพไม่เคยได้รวบรวมเป็นชิ้นเป็นอันส่วนมากจะสเก็ตช์เพื่อเป็นภาพต้นแบบเสียมากกว่าแล้วก็กระจัดกระจายอยู่ตามแผ่นกระดาษหรือสมุดเล่มต่างๆ เลยมีสูญหายไปบ้างตามกาลเวลา
พอหัดทำสมุดทำมือสำเร็จเล่มแรกเลยหันมาสเก็ตช์ให้อยู่ในเล่มเดียวกันแบบเป็นเรื่องเป็นราวซะที แต่จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อสร้างงานศิลปะแต่อย่างใด หากเป็นการสเก็ตช์กึ่งบันทึกเหตการณ์ที่พบเห็นอย่างตรงไปตรงมา ชอบการสเก็ตช์สดๆ ในเวลาอันจำกัดโดยเฉพาะภาพคน เพราะมีเรื่องราว มีชีวิตชีวา และท้าทายทำให้ตื่นเต้นและต้องลุ้นทุกครั้งที่ลงมือ(ว่าจะไปรอดรึเปล่า) เพราะแต่ละคนมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป มีปัญหาเฉพาะหน้าให้แก้อยู่ตลอดเวลา ต้องแข่งกับเวลา จับบุคลิกเรื่องราวให้ได้ ผิดพลาดบ้างไม่เป็นไรเส้นที่ผิดถือว่าเป็นเสน่ห์ล่ะกัน…555+ แล้วลงสีน้ำบ้างตามแต่โอกาสจะเอื้ออำนวย
อุปกรณ์:
ปากกา ส่วนมากใช้ uni pin 0.5,0.8 บางภาพก็ Pigma micron 0.5 หรือ Niji 0.5 (หมึกไม่กันน้ำ) บ้างแล้วแต่โอกาส(มีงบเมื่อไรจะถอยลามี่มาลองดูบ้าง) ส่วนสมุดเย็บเล่มเองด้วยกระดาษ Renaissance ผิวเรียบ, สีน้ำ Cotman จานสีดัดแปลงจากกล่องสแตนเลส ใช้ด้านในจุกฝาขวดน้ำดื่มติดกาวตราช้างวางเรียงกันเป็นหลุมใส่สี, พู่กันแทงค์ SAKURA , SEIKAI
การลงสีน้ำของคุณ P_Chaisong สดใสสวยงามมากเลยครับ ภาพที่เป็นวิวถนนนั้นสวยงามสมจริงจนทำให้หวนรำลึกถึงถนนเส้นที่ผมใช้เดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดเลย อีกทั้งการวาดภาพบุคคนก็จับรายละเอียดได้ยอดเยี่ยม ผลงานสเก็ตช์ดูสนุกและน่าติดตามจริงๆ ครับ ขอสมัครเป็นแฟนคลับเบอร์หนึ่งด้วยนะครับ@hackhq
เหนื่อยเราไม่เหนื่อย เมื่อยเราไม่เมื่อย เราจะฝึกสเก็ตช์ภาพไปเรื่อยๆ เย้ ^__^
จากภาพสเก็ตช์ Pala Pizza Romana และภาพชุดกรุ่นของกินกลิ่นสีน้ำ เป็นแรงบันดาลใจให้อยากจะฝึกสเก็ตช์ภาพเครื่องดื่มเป็นครั้งแรก เริ่มจากกาแฟและมาร์ชเมลโลช็อคโคค่ะ
อุปกรณ์ : สมุดทำมือกระดาษ Arches 300gm – Rough, ดินสอและสีน้ำ Winsor & Newton Deluxe Sketcher’s Pocket Box
ขอบคุณค่ะ
ญ
จั่วหัวก็เกินไป๊! ถึงผมจะชอบพิซซ่าร้านนี้มากมายขนาดไหน แต่ก็ไม่ได้ไปถี่ถึงขนาดนั้นครับ อันที่จริงแล้วถ้าจำไม่ผิดผมไปทานมาแลัวน่าจะ 8 ครั้งได้(ในสองเดือน) ก็เนื่องจากพิซซ่ามันอร่อยมากกก วัตถุดิบที่ใช้ก็คุณภาพดี แถมยังสามารถสั่งทานแค่พออิ่มชิ้นเล็กๆ ได้ด้วย พิซซ่าราคาเพียงแค่ 100 บาทก็อิ่มหนำสำราญใจแล้วครับ (แต่ผมขอสองนะ)
เนื่องจากร้าน Pala Pizza Romana ร้านนี้เป็นร้านอาหารแบบฝรั่งจ๋า ทำให้อะไรๆ ก็ดูน่าสเก็ตช์ไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้าน สินค้าที่วางขาย รวมถึงเมนูอาหารแต่ละเมนูด้วย และถึงแม้ผมจะเสพติดพิซซ่าร้านนี้มากมายเพียงใดก็ตาม แต่สิ่งที่ผมอยากสเก็ตช์ที่สุดกลับเป็นอาหารจานสลัดครับ ก็เนื่องจากความสดใสของสีสันวัตถุดิบ รวมถึงการจัดวางแบบ “ไร้กระบวนท่า” …หรือก็คือเอามาขยำๆ รวมๆ กันนั่นเองครับ ทำให้สลัดแต่ละจานนั้นน่าทานและน่าสเก็ตช์เป็นที่สุด
Burrata Caprese
เมนูแรกเป็นเมนูที่ผมไปทานมาเมื่อเทศกาล “มายโลนลี่วาเลนไทน์” ที่ผ่านมาครับ Burrata Caprese มันคือสลัดมะเขือเทศครับ ฝานมะเขือเทศลูกขนาดกำลังพอเหมาะเป็นแผ่นหนา วางลงบนจานพร้อมกับผักร๊อคเก็ต ราดด้วยน้ำมันมะกอกเล็กน้อยพร้อมเติมแต่งรสชาติเข้มข้นด้วยน้ำส้มบัลซามิก ปิดท้ายด้วยพระเอกคนสำคัญของสลัดจานนี้ก็คือชีสควาย…เอ่ออ…ชีสนมควายหรือก็คือ Burrata Cheese ที่วางมาทั้งก้อนเหมือนเชฟเขาขี้เกียจครับ ค่อยๆ เอามีดฝานตัดก้อนชีสก้อนใหญ่นี้ให้น้ำนมที่คงเหลืออยู่ภายในไหลออกมา จิ้มชิ้นชีสที่ชุ่มฉ่ำทานคู่ไปกับมะเขือเทศที่อาบพรมไปด้วยบัลซามิก รสชาติของนมผสมกับความหวานของมะเขือเทศและความเปรี้ยวของบัลซามิก สลัดจานนี้อร่อยจนยากที่จะหาคำบรรยายมาบอกกล่าวเลยหล่ะครับ
Bio Red Honey Tomato Salad
เมนูสลัดจานที่สองก็คือ Bio Red Honey Tomato Salad วันนี้ผมไปทานกับเพื่อนครับนั่นก็คือคุณวิ @pi_pooh สเก็ตช์เชอร์ทาสแมวและอาหารยั่วน้ำลายของเรานั่นเอง เรื่องของเรื่องคือผมได้เคยโม้กับคุณวิไว้เยอะมากว่าพิซซ่าร้านนี้อร่อยนักอร่อยหนา คุณวิฟังแล้วก็หน้านิ่วว่าจะเชื่อถือคำพูดของผมได้หรือไม่ จึงขอมาลองให้หายข้องใจกันไปเลยครับ สั่งพิซซ่าเป็นที่เรียบร้อยสำหรับมื้อนี้แต่ตาของพวกเราเหลือบไปเห็นเมนูพิเศษประจำวันบนป้ายที่แขวนไว้เหนือบาร์…แล้วก็ลองสั่งดูครับ สลัดจานนี้เป็นสลัดมะเขือเทศสีส้ม…ซึ่งผมไม่ทราบจริงๆ ครับว่ามันคือพันธุ์อะไรกันแน่แต่ถ้าหากมันเป็นสิ่งที่สามารถกินได้ …ผมก็กินไม่ยั้งอยู่แล้วครับ สลัดจานนี้เป็นสลัดหวาน เสริฟมาพร้อมกับชีส(อะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้)หันเป็นสีเหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ คลุกเคล้าด้วยกันกับผักร็อคเก็ต แต่ที่ทำให้สลัดจานนี้มีรสชาติที่พิเศษเหนือใครนั่นก็คือน้ำผึ้งครับ จานนี้เป็นสลัดที่ราดน้ำผึ้งเพื่อเพิ่มความหวานแต่กำลังพอดี ผสมผสานกับความหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ของมะเขือเทศ ตัดรสด้วยความเค็มเล็กน้อยจากชีส เผลอแป๊บเดียวสลัดจานนี้ก็หมดเกลี้ยงแบบไม่ทันรู้ตัวครับ
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงจะบอกว่าไหนว่าชอบพิซซ่าแต่ไม่เห็นมีสเก็ตช์รูปพิซซ่ามาอวดกันบ้างเลย …ผมต้องขออภัยจริงๆ ครับที่ไม่มีสเก็ตช์พิซซ่าเหล่านั้นมาให้ได้ชม งั้นขอแก้ตัวด้วยการนำรูปถ่ายที่ “ไม่ได้ตั้งใจถ่าย” มาให้ดูกันแล้วกันนะครับ 😉
ที่มีปลาเค็มคือ Ciociara อันหลังที่แฮมบานๆ คือ Toscana
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น Boscaiola
Brie & Speck อันนี้เมนูโปรดของผมครับ ส่วนอันหลังอะไรไม่รู้น่าจะ Capricciosa (มั่ว)
อ้อ! เกือบลืมบอกครับ ร้านนี้เดินทางไปไม่ยากเลยครับ นั่งรถไฟฟ้ามาที่สถานีอโศก หรือรถไฟใต้ดินมาที่สถานีสุขุมวิท ตรงบันไดเลื่อนทางเชื่อมต่อระหว่างรถไฟใต้ดินมายังบนดิน(บริเวณที่มีม็อบ ข้างร้านโดนัท บันไดเลื่อนที่จะขึ้นไปห้างเทอมินัล 21) หยุดยืนสักพักเพื่อสูดกลิ่นหอมจากเตาอบครับ แล้วคุณจะทราบเองว่าเดินตรงไปอีกสักนิดร้าน Pala Pizza Romana ก็กำลังรอคอยให้คุณเข้าไปลิ้มชิมรสพิซซ่าที่แสนอร่อยอยู่ครับ
อุปกรณ์ที่ใช้
เว็บไซต์ของร้าน : palapizzabangkok.com
ขอขอบคุณ : รูปถ่ายสวยๆ จาก @itidtie ด้วยนะครับ นี่ชั้นต้องพาเธอไปเลี้ยงไหมเนี่ยะ?